วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

WEEK 9: เรื่องที่นักเรียนสนใจ Fate Zero

           ในตอนแรกผมได้กล่าวถึง fate staynight ไปแล้วนะคับ คราวนี้เรามาดูเรื่องราวย้อนหลังไป10ปี ก่อนเกิด fate staynight กันดีกว่าคับ
          "ปฐมบทของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  คือโศกนาฏกรรมอันแสนโหดร้าย  ความปรารถนาอันไกลเกินจะไขว่คว้า… เกียรติยศถูกย่ำยี  ความสูญเสียที่ไม่มีวันหวนคืน  ยังคงเป็นปรากฏเป็นดั่งรอยไหม้ที่หลงเหลืออยู่จากกองเพลิงของสงคราม ณ วันนั้น" ก็เป็นคำพูดเปิดเรื่องของ fate zero นะคับ
            Fate/ Zero เป็นผลงานการร่วมกันระหว่างค่าย Type-moon เจ้าของลิขสิทธิ์ดั่งเดิมกับทาง Nitroplus  ซึ่งได้คุณ Urobochi Gen มาแต่งเรื่องให้ วาดภาพประกอบโดยคุณ Takashi Takeuchi  มีความยาวอยู่ที่ 6 เล่มจบ วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ ปี 2006  อีกทั้งยังมีรูปแบบของมังงะวาดโดยคุณ Shinjirou ที่เขียนเมื่อปี 2011ลงในนิตยาสาร Young Ace จนกระทั่งออกฉายในรูปแบบทีวีซี่รี่ย์ในซีซั่นแรกเมื่อ 1 ตุลาคม ถึง 24 ธันวาคม ปี 2011 จำนวน 13 ตอน และในซีซั่นที่ 2 เมื่อ 7 เมษายน จนถึง 23 กรกฎาคม ปี 2012 จำนวน 12 ตอน  รวมทั้งหมดเป็น 25 ตอนจบ จากฝีมือการกำกับของคุณ Ei Aoki
          เรามาแนะนำตัวละครหลักๆกันครับ
Masters

Fate--Zero-(8)
เอมิยะ คิริซึงุ 
Kiritsugu Emiya (狡噛 慎也)

ชายผู้เป็นตัวเอกของภาคนี้  เป็นหนึ่งในมาสเตอร์ของเซเบอร์ที่เข้าร่วมในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  มีฉายาว่า “มือสังหารจอมเวทย์” ซึ่งเป็นชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีนัก  เขาจะใช้วิธีจัดการกับบรรดามาสเตอร์คนอื่นๆ โดยไม่เลือกวิธีการและความถูกต้องใดๆ ทั้งนั้น  ในวัยเด็กนั้น… เขาได้สังหารผู้เป็นพ่อที่ก่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญสร้างเหล่ามรณา (ทำให้คนเสียสติจนดูคล้ายซอมบี้) ในเกาะที่ตัวเขาอาศัยอยู่  จากนั้นเขาก็ได้มาอาศัยอยู่กับนักฆ่าสาวคนหนึ่งที่ชื่อ “นาตาเซีย”   ก่อนที่เขาจะเป็นคนสังหารนาตาเซีย  จากเหตุการณ์ๆ หนึ่งอย่างช่วยไม่ได้

ช่วงท้ายของเรื่อง… จอกศักดิ์สิทธิ์ได้เลือกให้เขาเป็นผู้ถือครอง  แต่เขาได้ปฏิเสธและทำลายจอกศักดิ์สิทธิ์ลง  แต่ทว่าผลกลับพลิกผันจนทำให้เมืองฟุยุกิบางส่วนต้องพินาศลง  สุดท้ายตัวเขาเองก็ไม่ได้อะไรเลย… นอกจากการสูญเสียทุกๆ สิ่ง  แต่ท่ามกลางซากปรักหักพังนั้น  เขาได้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งเอาไว้ได้  และเลี้ยงดูเด็กคนนั้นเหมือนลูกแท้ๆ


ไอริสฟิล ฟอน ไอส์เบิร์น
Irisviel Von Einzbern  (アイリスフィール・フォン・アインツベルン)

สาวผมสีเงิน นัยน์ตาสีแดงทับทิม  เธอเป็นมนุษย์เทียมโฮมุคุรัส  ที่มีต้นแบบมาจาก “ลิซไลฮี ยูสทีเชีย ฟอน ไอน์สเบิร์น”  มนุษย์เทียมตนแรกของตระกูลฝ่ายไอส์เบิร์น  ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็น “ภาชนะรองรับการถือกำเนิดของจอกศักดิ์สิทธิ์”  ซึ่งในบรรดามนุษย์เทียมทั้งหมดนั้น  เธอได้รับโอกาสในการเป็น “คุณแม่” ที่ให้กำเนิด“ลิยาสฟีล ฟอน ไอน์สเบิร์น” เด็กทารกเพศหญิงที่เป็นมนุษย์เทียมเหมือนกับตัวเอง  โดยที่มีคิริซึงุเป็นสามีและพ่อแท้ๆ ของอิลิยา  ในร่างกายของเธอนั้นมีฝักดาบอวาลอน (Avalon)สื่อในการอัญเชิญเซเบอร์  ที่คิริซึงุได้ซ่อนเอาไว้  โดยให้เธอเป็นมาสเตอร์จำแลงของเซเบอร์  ในการต่อสู้เพื่อแนวหน้าในสงครามจอกศักดิ์ (เป็นการล่อให้มาสเตอร์คนอื่นให้มาติดกับ)  โดยที่คิริซึงุทำหน้าที่เป็นแนวหลัง คอยจัดการศัตรูด้วยวิธีการที่สกปรก  แต่สุดท้ายเธอต้องตายด้วยฝีมือของคิเรย์   

เธอเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนต่อโลก  เพราะเกือบทั้งชีวิตของตัวเธอนั้นอาศัยอยู่แต่ในปราสาท  นอกจากนี้… เธอยังสามารถใช้วิชาแปรธาตุได้… แถมยังขับรถได้เก่งระดับพระเจ้าแห่งอากินะอีกด้วยนะ 



Fate--Zero-(10)
โคโตมิเนะ คิเรย์ 
Kirei Kotomine (言峰綺礼)

ชายหนุ่มผู้เป็นนักบวชจากทางศาสนจักรที่มีข้อตกลงกับทางสมาพันธ์จอมเวทย์  ในการดูแลกติกาของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  เป็นหนึ่งในมาสเตอร์ของแอสซาซินที่เข้าร่วมในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  อีกทั้งยังเป็นนักฆ่าของทางโบสถ์ที่จัดว่ามีฝีมือในการต่อสู้ที่ร้ายกาจอย่างมาก  เขาเป็นลูกศิษย์ของโทคิโอมิ  ในช่วงระหว่างที่สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์กำลังดำเนินอยู่นั้น  เขาได้สูญเสียเซอร์เวนท์ของตัวเองไป  ด้วยฝีมือของไรเดอร์  แม้ว่าบทบาทในการเข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ของตัวเขาจะสิ้นสุดลงไป  แต่ด้วยการชักจูงใจของอาเชอร์  ทำให้เขาได้นึกถึงสิ่งที่ตนเองนั้นปรารถนา  หากว่าตัวเขานั้นได้ครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์  เขาจึงได้ทำการสังหารโทคิโอมิและกลายเป็นมาสเตอร์ของอาเชอร์แทน

ในช่วงท้ายของเรื่อง… เขาได้เผชิญหน้ากันกับคิริซึงุ และถูกอีกฝ่ายสังหารลง  แต่เขากลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้  เพราะพลังของจอกศักดิ์สิทธิ์บางส่วนได้สร้างหัวใจเทียมสีดำให้ตัวเขา  เขาจึงเป็นอีกหนึ่งผู้ที่รอดจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในครั้งที่สี่



Fate--Zero-(11)
โทซากะ โทคิโอมิ 
Tokiomi Tohsaka (遠坂時臣)

ชายผู้เป็นผู้นำตระกูลจอมเวทย์โทวซากะ  หนึ่งในสามตระกูลใหญ่ที่เข้าสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  อีกทั้งยังเป็นมาสเตอร์ของอาเชอร์  ตัวเขาได้แต่งงานกับเซ็นโจว อาโออิ  และมีลูกสาวด้วยกันสองคน คือโทวซากะ ริน และ มาโต้ ซากุระ ในช่วงก่อนเริ่มต้นของสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์นั้น  เขาและโคโตมิเนะ ริเซย์  ได้เป็นคนจัดการให้คิเรย์เข้ามาร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ด้วยเหตุผลในการหาแนวร่วมพันธมิตร  เพื่อการเป็นฝ่ายชนะในสงครามครั้งนี้ได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น  ตัวเขามีความเชื่อในแง่ที่ว่าตระกูลจอมเวทย์ไม่ควรจะมีผู้สืบทอดครรลองแห่งศาสตร์มนตราถึงสองคน  จึงได้ส่งซากุระให้ไปอยู่กับทางตระกูลมาโต้ และเลือกรินที่มีความสามารถทางการใช้ธาตุทั้งห้า  ซึ่งเรื่องนี้… แม้ว่าอาโออิจะปวดใจกับสิ่งที่สามีได้กระทำลงไป  แต่ก็ได้เพียงเงียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกออกมา 

Fate--Zero-(13)
เวเวอร์ เวลเวท
Waver Velvet (ウェイバー・ベルベット)

เด็กหนุ่มผู้เป็นหนึ่งในมาสเตอร์ของไรเดอร์ที่เข้าร่วมในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่ (และเขาจะเป็นลอร์ดเอล-เมลลอยคนต่อไปในอนาคต)  นักศึกษาของสมาพันธ์จอมเวทย์สาขาอังกฤษที่มีชื่อว่า “หอนาฬิกา”  เขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมสงครามศักดิ์สิทธิ์  เพียงเพราะต้องการทำให้สมาคมจอมเวทยอมรับในความอัจฉริยะภาพของตัวเขา  จึงได้ขโมยเอาสื่อเรียกวิญญาณวีรชนที่เป็นผ้าคลุมมาจากสมาพันธ์หอนาฬิกาและเดินทางไปยังญี่ปุ่น  และได้มาอาศัยอยู่กับเกลนและมาร์ธา แมคเคนซี่ คู่สามีภรรยาในวัยชราที่เป็นชาวแคนาดาซึ่งอาศัยในญี่ปุ่น  ซึ่งตัวเขาได้ใช้เวทย์ทำให้ทั้งสองคนคิดว่าเขาเป็นหลานชายแท้ๆ

แต่เนื่องด้วยความรอบรู้ที่ร่ำเรียนมาในสมาพันธ์ไม่ได้เพียงพอที่จะเป็นประสบการณ์ในการต่อสู้จริงๆ ตัวเขาไม่สามารถควบคุมเซอร์เวนท์ของตัวเองได้เลย  เขาเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เหลือรอดจากสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ในครั้งที่สี่
Servant 

      

เซเบอร์ 
Saber (セイバー)

สาวน้อยผมสีทอง  ผู้เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกคิริซึงุอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสเซเบอร์  ซึ่งเป็นหนึ่งในคลาสที่แข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดคลาสทั้งหมด  โดยนามที่แท้จริงคือ “อาร์เธอเรีย เพ็นดราก้อน” (Arturia Pendragon) หรืออาร์เธอร์ (Arthur)ราชันย์แห่งอัศวิน… กษัตริย์แห่งเกาะบริเท็นในตำนานของคาเมล๊อต (Camelot) ผู้ซึ่งไม่เคยเข้าใจถึงความหมายของคำว่า “ราชาที่แท้จริง” นั้นต้องเป็นเช่นไรกันแน่…

ในช่วงที่ร่วมมือกันกับคิริซึงุในฐานะเซอร์เวนท์นั้น… คิริซึงุมักจะบังคับให้เธอทำสิ่งที่ไม่ต้องการและเป็นการหยามหมิ่นในเกียรติแห่งอัศวิน  แต่หากทางเลือกที่เธอมุ่งจะครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์  เพื่อความปรารถนาอันยังไม่เคยทำสำเร็จในอดีต  เธอจึงต้องฝืนใจกระทำลงไปโดยที่มือของตัวเองต้องแปดเปื้อนความโสมมแค่ไหนก็ตาม 

Fate--Zero-(25)

ในช่วงสุดท้ายของเรื่อง… จอกศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงหน้าของเธอ  แต่กลับไม่อาจคว้ามันมาครองได้  เพราะมาสเตอร์ของเธอได้ออกคำสั่งให้ทำลายมันลง  จนเมืองฟุยุกิส่วนหนึ่งต้องพินาศ   และสุดท้าย… เธอก็ไม่ได้อะไรตอบแทนมา ไม่มีเลย…

มีโนเบิล แฟนทาสม์ (Noble Phantasm) คือ เอ็กซ์ คาลิเบอร์ (excalibur) เป็นดาบโปร่งแสงที่มีพลังในการทำลายล้างที่สูงมาก



Fate--Zero-(26)
ไรเดอร์ 
Rider (ライダー)

ชายร่างยักษ์บึกบึน  ผู้เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกเวเวอร์อันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสไรเดอร์  โดยนามที่แท้จริงคือ อิสกันดาร์ (Iskander) หรืออเล็กซานเดอร์มหาราช  ราชันย์แห่งผู้พิชิต… กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของชาวกรีก  เวเวอร์ได้ใช้ผ้าคลุมซึ่งแต่เดิมอิสกันเดอร์เคยได้สวมใส่  เดิมทีนั้นสื่ออันเชิญนี้เคยเป็นของเคย์เนธมาก่อน  อิสกันเดอร์เป็นเซอร์เวนท์ที่ควบคุมได้ยาก  มักจะทำตามใจตนเองอยู่บ่อย  รวมไปถึงเวลาต่อสู้เขามักจะโอ้อวดศักดาอย่างเปิดเผย  นับถือในเกียรติของคู่ต่อสู้ทุกๆ คน  เขามีความฝันว่าอยากที่จะเดินทางไปยังดินแดนที่เป็นจุดสิ้นสุดของโลก  และการต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้  คือการทำตามความปรารถนาของตนเอง

ในช่วงท้ายของเรื่องนั้น… เขาได้ต่อสู้ชี้ขาดกับอาเชอร์  ซึ่งผลคือไม่สามารถเอาชนะได้  จนร่างต้องแตกสลายหายไปในที่สุด

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ ไอโอเนียน เฮไตรอย (Ionioi Hetairoi) อันหมายถึง  “สหายศึกแห่งกรีก 
อาเชอร์ 
Archer (アーチャー)

ชายผู้ใส่ชุดเกราะสีทอง  เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกโทซากะ โทคิโอมิอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสอาเชอร์  โดยนามที่แท้จริงคือ “กิลกาเมส” (Gilgamesh) ราชันย์แห่งวีรชน… กษัตริย์ในตำนานสุเมเรีย  ที่ถือว่าเป็นตำนานที่เก่าแก่อีกตำนานหนึ่งมากที่สุดในโลก  ผู้ครอบครองทรัพย์สมบัติทุกๆ ชิ้นบนโลกใบนี้  โทคิโอมิได้ใช้สื่ออันเชิญที่เป็นซากฟอสซิลของหนังงูเก่าแก่  เป็นผู้ที่มีความเหย่อหยิ่งและมีความทะนงตนเป็นที่ตั้ง  แม้แต่กับมาสเตอร์ของตัวเขาเองก็ยังไม่อาจจะควบคุมพฤติกรรมของเขาได้ (ถ้าไม่ใช่เรย์จูบังคับ)  และเขายังให้ความสนใจต่อเซเบอร์อย่างมาก (ถึงขั้นจะจัดพิธีสมรสให้เซเบอร์เป็นพระมเหสีกันเลยทีเดียว)

Fate--Zero-(31)
เขาเองได้เข้าร่วมสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เพื่อต้องการชำระโลกที่เสื่อมทราม  จนรู้สึกถึงความน่าสมเพสที่โลกใบนี้ต้องแปดเปื้อนด้วยลงจากน้ำมือของมนุษย์  แต่เมื่อมองเห็นถึงจุดมุ่งหมายที่สวนทางกับความต้องการของตัวเขากับโทคิโอมิ  ประจวบเหมาะกับในช่วงที่คิเรย์สูญเสียเซอร์เวนท์ของตัวเองไปแล้ว  จึงได้ล่อลวงให้คิเรย์ทำการสังหารโทคิโอมิ  และเริ่มดำเนินแผนการเพื่อแย่งชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ในฐานะผู้ชนะสงคราม  ทว่าทุกๆ อย่างนั้นกลับเป็นศูนย์… เมื่อเซเบอร์ได้ทำลายจอกศักดิ์สิทธิ์ลงตามคำสั่งของคิริซึงุ

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ“เอนคิดู” (Enkidu)และ “เออา” (Ea) ซึ่งออกมาจาก “เกท ออฟ บาบิโลน” (Gate of Babylon) ประตูสู่ท้องพระคลังในนครแห่งบาบิโลน



Fate--Zero-(27)
แลนเซอร์ 
Lancer (ランサー)

ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง  ผู้เป็นวิญญาณวีรชนที่ถูกเคย์เนธอันเชิญมาร่วมต่อสู้ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สี่  ในคลาสแลนเซอร์  โดยนามที่แท้จริงคือ “เดร์มุด โอ เดน่า” (Diarmuid Ua Duibhne) นักรบแห่งฟิอันน่า มีเวทย์ “พักตร์อาคม” ที่ทำให้สตรีเพศลุ่มหลงในตัวเขา แต่ใช้ไปได้ผลกับเซเบอร์ (หรือว่าเซเบอร์เป็นสาวดุ้น?) เขายึดถือความเป็นอัศวินผู้มีเกียรติอย่างมาก  ยอมรับในตัวของเซเบอร์ที่ต่อสู้กับเขาและให้ความเคารพต่อกัน  ตัวเขาต่อสู้เพื่อเคย์เนธผู้เป็นนายอย่างจงรักภักดี… แม้ว่าอีกฝ่ายจะหยามหมิ่นตนเองแค่ไหนก็ตาม  ไม่มีความปรารถนาต่อสิ่งที่ต้องการหากได้ครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์  เพราะถือว่าชัยชนะของมาสเตอร์ในสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์  คือความปรารถนาสูงสุดในฐานะอัศวินที่เขาเป็น 

แต่จุดจบของเขาต้องมาถึง  เมื่อเคย์เนธได้ใช้บัญชาอาคมสั่งให้เขาฆ่าตัวตาย  เพราะโซลาอุถูกจับเป็นตัวประกัน  จากการวางแผนของคิริซึงุ  ทว่าก่อนที่ตายนั้น… เขาได้สาปแช่งทุกๆ คนด้วยความอาฆาต

มีโนเบิล แฟนทาสม์ คือ หอกทองคำ “เก โบว” (Gae Buidhe) หอกต้องสาปที่ทำให้เกิดบาดแผลซึ่งไม่สามารถรักษาได้ และ “เก เดียร์ก” (Gae Dearg) หอกยาวที่ทำให้การเสริมพลังเวทไร้ผล  และยังสามารถทะลุทะลวงพลังเวทย์ต่างๆ ได้ทุกๆ รูปแบบ

ก็อะไรประมาณนี้ละครับ แล้วพบกันใหม่นะคร้าบบบบบบบ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.metalbridges.com/fate-zero/